สตรีที่มีระดับวิตามิน อี สูง จะช่วยให้ทารกน้อยในครรภ์ตัวใหญ่กว่า

MR. MOONLIGHT / 2-Aug-17

วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์จากสารอนุมูลอิสระทั้งหลาย (ซึ่งสารอนุมูลอิสระนั้นเป็นตัวการสำคัญในการทำลายผนังเซลล์, ดีเอ็นเอ, ลดประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และทำให้เราดูแก่ขึ้นนั่นเอง)

วิตามินอีนั้นมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของระบบประสาทและเส้นเลือดในทารก ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาจากวิทยาลัยแพทย์ด้านกระดูกและกล้ามเนื้อแห่งรัฐนิว เจอร์ซี่ ที่ระบุว่าระดับวิตามินอีในสตรีตั้งครรภ์มีความเกี่ยวพันกับการคุณภาพการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทางกลุ่มผู้วิจัยได้มีการวัดระดับของอัลฟ่า และแกรมม่า โทโคเฟอรอล (รูปหนึ่งวิตามินอีที่พร้อมใช้งาน) พร้อมๆ กับวัดการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ไปด้วย พบว่าสตรีมีครรภ์ที่มีระดับอัลฟ่า-โทโคเฟอรอลสูงมีอัตราการให้กำเนิดบุตรที่มีขนาดตัวใหญ่กว่า นอกจากนั้นยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการให้กำเนิดทารกที่น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ได้ และที่สำคัญคือสตรีที่เลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี และทานวิตามินอีเสริมจะส่งผลให้มีระดับของอัลฟ่า-โทโคเฟอรอลในเลือดสูง ดังนั้นคงไม่ช้าไปหากคุณจะเริ่มสนใจในการเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินอีและอัลฟ่า-โทโคเฟอรอลสูงเพิ่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์

Women high in vitamin E have bigger babies

Vitamin E is an important antioxidant that protects the cells against free radicals- highly reactive chemicals that destroy cell membranes, DNA, depress the immune system and promote aging. The vitamin is critical for nerve and blood vessel growth in infants. According to researchers from the New Jersey School of Osteopathic Medicine, vitamin E levels in pregnant women are vital for pre-birth (prenatal) growth. They compared blood levels of Alpha- and gamma- tocopherols (two types of vitamin E) with measures of fetal growth in pregnant women. Women with higher levels of alpha-tocopherol delivered larger babies and had a reduced risk of delivering low birth weight infants. Alpha-tocopherol levels were higher in women who consumed more vitamin E in the diet and took vitamin E suplements. Consuming foods high in vitamin E and alpha-tocopherols promote normal fetal growth. ( America Journal Clinical Nutrition, 84; 1442 – 1448, 2006)

ขอขอบคุณผู้แปล คุณอารีรักษ์ ฤดีสถิตขอขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร Fitness RX




เพิ่มคุณภาพของกระดูกหลังหมดประจำเดือนด้วยวิตามินเค

MR. MOONLIGHT / 29-Jul-17

วิตามินเค (มีนาเตตตีโนน) เป็นปัจจัยหลักในการทำให้เลือดแข็งตัว แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยกระตุ้นโปรตีนถึง 3 ชนิดในการสร้างกระดูกที่มีคุณภาพ

สตรีที่ได้รับวิตามินเคต่ำนั้นมักจะพบว่ามีมวลกระดูกที่บางและมีปัญหากระดูกหักได้ง่ายกว่ากลุ่มที่ได้รับวิตามินเคสูง นักวิทยาศาสตร์หลายท่านจากญี่ปุ่นและงานวิจัยมากมายชี้ให้เห็นว่าการได้รับวิตามินเคจะช่วยป้องกันการหักของกระดูกสันหลังได้, เพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างกระดูก แต่ไม่ได้ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกแต่อย่างใด ในการศึกษาชิ้นอื่นๆ พบว่า สตรีจะมีค่าความหนาแน่นของมวลกระดูกเพิ่มขึ้นหลังเริ่มรับประทานวิตามินดีและเคร่วมกันประมาณ 2 ปี ซึ่งอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินเคได้แก่ ผักโขม, กะหล่ำดาว, บล็อกโคลี่, ตับ, หน่อไม้ฝรั่ง และน้ำมันถั่วเหลือง โดยเฉพาะผักโขมที่ปรุงสุกแล้วจะมีวิตามินเคมากกว่าผักโขมสด และแน่นอนว่าวิตามินเคจะสามารถทำงานได้ดีที่สุดเมื่อทำงานร่วมกับวิตามินดี ซึ่งวิตามินเคนั้น มีทั้งหมดสองรูปแบบคือวิตามินเคหนึ่งและวิตามินเคสอง ทั้งสองตัวเป็นตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มความแข็งแกร่งของกระดูกในร่างกาย

Vitamin K improve bone quality in postmenopausal women

Vitamin K (menatetrenone) is mainly involved in blood clotting, but it activates at least three proteins involved in bone health. Women with low intakes of vitamin K have more fractures and lower bone mass than women with high intakes. Japanese scientists, in a review of literature, concluded that vitamin K supplements prevent spinal fractures, but have no effect on bone density. The vitamin strengthens the structure of bone without increasing its density. In other studies, women who took vitamin K and D supplements showed increased bone density after two years. Good sources of vitamin K include spinach, Brussels sprouts, broccoli, liver, asparagus and soy bean oil. Cooked spinach has more vitamin K than raw spinach. Vitamin K strengthens bone best when taken with vitamin D. The two forms of vitamin K (I,e., K1 and K2) are effective for increasing bone strength. (Nutrition Reviews, 64: 509-517, 2006)

ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร Fitness RX 2007ขอบคุณผู้แปล คุณ อารีรักษ์ ฤดีสถิต




เมื่อโรคาตามมาพร้อมนวัตกรรม

MR. MOONLIGHT / 28-Jul-17

ในขณะที่เทคโนโลยีต่างๆ รอบตัวเรากำลังนำพาเหล่ามนุษยชาติก้าวสู่ยุคสมองกลนั้น ในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยีก็ได้พาเอาโรคต่างๆ ตามมากับการเล่นโทรศัพท์และการพิมพ์ข้อความผ่านแบล็กเบอร์รี่ สปาต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ต่างก็เตรียมพร้อมกับปัญหาเหล่านี้ด้วยการนำเสนอคอร์สบำบัดแบบพิเศษตามสาเหตุและลักษณะอาการปวดของลูกค้า เช่น ร้านคอมพลีสลี่แบร์ ร้านเสริมสวยกลางกรุงนิวยอร์คได้เปิดตัวทรีทเม้นท์ทำความสะอาดรูขุมขนที่อุดตันจากการที่ผิวหน้าสัมผัสแสงหน้าจอโทรศัพท์มากเกินไป, โอริท แบ็กซ์เตอร์ นิวยอร์คสปาก็นำเสนอการนวดที่ชื่อ “เทคเน็ค” ซึ่งเป็นการนวดผ่อนคลายสำหรับผู้ที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือเป็นระยะเวลานาน, ร้านสปาในนิวยอร์คอีกที่ชื่อเกรซฟูลเซอร์วิสก็มีการนวดพิเศษที่มีชื่อว่า “แบล็กเบอร์รี่ทรัมบ์”เช่นกัน ทรีทเม้นท์เหล่านี้สนนราคาตั้งแต่หนึ่งร้อยดอลล่าร์จนถึงหลายร้อยดอลล่าร์เลยทีเดียว หากลองสอบถามสปาใกล้บ้านคุณ อาจจะพบทรีทเม้นท์เหล่านี้ซ่อนอยู่ก็เป็นได้ ในทางกลับกันคุณอาจคิดว่าทรีตเม้นท์เหล่านี้ถูกคิดขึ้นมาเป็นกลไกการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าของเหล่าสปาทั้งหลาย แต่ในความเป็นจริงอาการ “แบล็กเบอร์รี่ทรัมบ์” นั้นถูกจำกัดวามว่าเป็นโรคเรื้อรังจากการทำงานอย่างหนึ่งโดยสมาคมกายภาพบำบัดแห่งสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว

New Technology means new aliments

While technology has signaled the beginning of the computer age, it’s also brought with it a host of maladies that can affect anyone who’s ever held a cell phone, typed on a keyboard or text messaged through a Blackberry. Spas across the country are responding by offering specialised therapies to ease the pain and stiffness many of these conditions bring. For example, Completely Bare, a salon in New York City has introduced Purity Plus facials to unclog the pores of cell phone users. Dorit Baxter New York Day spa offers a “Tech Neck” massage for keyboard and Blackberry users and Graceful Services, also in New York, offers a specialised massage for “Blackberry Thumb.” Treatments can range from under $ 100 to several hundred, so check with a spa in your area. And lest you think it’s all a gimmick to boost spa sales, know that Blackberry Thumb was recently recognised as a legitimate workplace malady by the American Physical Therapy Association (Reuters, Jan, 1, 2007)

ร้านสปาในนิวยอร์คอีกที่ชื่อเกรซฟูลเซอร์วิสก็มีการนวดพิเศษที่มีชื่อว่า "แบล็กเบอร์รี่ทรัมบ์"เช่นกัน ทรีทเม้นท์เหล่านี้สนนราคาตั้งแต่หนึ่งร้อยดอลล่าร์จนถึงหลายร้อยดอลล่าร์เลยทีเดียว หากลองสอบถามสปาใกล้บ้านคุณ อาจจะพบทรีทเม้นท์เหล่านี้ซ่อนอยู่ก็เป็นได้ ในทางกลับกันคุณอาจคิดว่าทรีตเม้นท์เหล่านี้ถูกคิดขึ้นมาเป็นกลไกการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าของเหล่าสปาทั้งหลาย แต่ในความเป็นจริงอาการ "แบล็กเบอร์รี่ทรัมบ์" นั้นถูกจำกัดวามว่าเป็นโรคเรื้อรังจากการทำงานอย่างหนึ่งโดยสมาคมกายภาพบำบัดแห่งสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว

New Technology means new aliments

While technology has signaled the beginning of the computer age

Completely Bare




Olive oil cuts cancer-causing chemicals

KAJARP / 25-Jul-17

ลดโอกาสการเกิดมะเร็งได้ง่ายๆ ด้วยน้ำมันมะกอก

ทุกวันนี้ ตลอดชีวิตของผู้หญิงมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งได้ 1 ใน 3 ซึ่งสวนทางกับอัตราการเกิดโรคหัวใจที่ลดต่ำลง อัตราการเกิดโรคมะเร็งนั้นยังคงเส้นคงวาอยู่เช่นนี้มามากกว่า 40 ปีแล้ว สตรีเพศสามารถลดวามเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้โดยการเลือกทานอาหารสุภาพ เช่น ผัก, ผลไม้, ธัญญพืช และปลา อีกทั้งควรลดการบริโภคอาหารประเภทแป้งขัดสี และเนื้อแดง หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวด้วยการบริโภคน้ำมันมะกอกนั้นก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธเด็ดในการป้องกันมะเร็ง ล่าสุดนักวิจัยชาวเดนมาร์คค้นพบว่า การบริโภคน้ำมันมะกอก 1 ออนซ์ต่อวัน สามารลดปริมาณสารอนุมูลอิสระที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ สารอนุมูลอิสระเหล่านี้มีความเกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้งกับกระบวนการทางเคมีที่ทำให้ดีเอ็นเอในเซลล์ถูกทำลาย, ผนังเซลล์สลายตัว, เกิดกระบวนการชราภาพ, การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโรคลดลง ส่งผลต่อเนื่องไปจนเกิดเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจ ความลับของนำมันมะกอกที่ช่วยลดการเกิดมะเร็งนั้นคือกรดไขมันไม่อิ่มตัวโมเลกุลเดียวและกรดโอเลอิก ซึ่งสามารถลดการทำลายเซลล์ลงได้ นั่นเอง

Olive oil cuts cancer-causing chemicals

The average woman has a one in three chance of developing cancer during her lifetime. While heart disease rates have tumbled, cancer rates have remained stable for more than 40 years. Woman may reduce the risk of cancer by eating healthier food such as fruits, vegetable, cereals, whole grain foods and fish, while reducing the intake of refine carbohydrate and red meat. Replacing saturated fat with olive oil may be a good strategy for prevent cancer. Danish researcher found that consuming just one ounce of olive oil per day reduced the levels of cancer-causing free radicals. Free radicals are highly reactive chemicals linked to DNA damage, cell membrane breakdown, aging, immune system suppression, cancer and heart disease. The anticancer actions of olive oil may relate to the ability of its monounsaturated fatty acid, oleic acid, to prevent cancer cell development by reducing DNA damage. (Federation American Societies Experimental Biology Journal, 21 : 4552, 2007)

FITNESS Rx




ABSMEDiQ Medical Fitness Booth C16 @ Bitec Bangna

MR. MOONLIGHT / 24-Jul-17

Welcome to ABSMEDiQ Medical Fitness Booth C16 @ Bitec Bangna from 22 – 30 July 2017, we have a Hot Promotion for Super Early Bird for all Anti-Aging Pilates and Anti-Aging Sport Medicine Courses.

Dr. Somboon Roongphornchai, M.D. Visits ABSMEDiQ Medical Fitness Booth @ Bitec Bangna




Exercise enhance genes

MR. MOONLIGHT / 24-Jul-17

การออกกำลังกาย ช่วยปรับปรุงระบบการถ่ายทอดทางพันธุกรรมในร่างกายให้ดีขึ้นได้

เราต่างก็ทราบกันเป็นอย่างดีมาตลอดว่าการออกกำลังกายนั้นช่วยทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และมีรูปร่างที่ดี แต่กลับยังไม่มีการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจนว่าการออกกำลังกายส่งผลต่อการทำงานในระดับดีเอ็นเออย่างไร ปัจจุบันมีการศึกษาจากสถาบันวิจัยคาโรลินส์ก้า ประเทศสวีเดน ที่ริเริ่มศึกษาถึงความเชื่อมโยงอันลี้ลับระหว่างการออกกำลังกายและการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ถ่ายทอดพันธุกรรม

สำหรับรายละเอียดงานวิจัยนั้น ผู้เข้าร่วมวิจัยทั้งเพศชายและหญิงร่วม 23 คน ได้ปั่นจักรยานฟิตเนสด้วยขาข้างเดียว ส่วนขาอีกข้างนั้นเป็นตัวยืนรักษาสมดุลเท่านั้น ปั่นเป็นระยะเวลา 45 นาที ทำ 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกัน 3 เดือน หลังจากนั้นนักวิจัยได้ตัดชิ้นกล้ามเนื้อจากขาทั้งสองข้างทั้งก่อนและหลังการร่วมโปรแกรมออกกำลังกายไปตรวจ พบว่าความคงทนของกล้ามเนื้อข้างที่ใช้ปั่นจักรยานดีขึ้น และยังมีการเปลี่ยนแปลงของชุดข้อมูลพันธุกรรมในเซลล์กล้ามเนื้อมากถึง 5,000 คู่

นี่คือจุดสำคัญที่เปลี่ยนแปลงองค์ความรู้ชีววิทยาทางพันธุศาสตร์ ว่าการออกกำลังกายส่งผลต่อกระบวนการเมททิลเลชั่น (กระบวนการทางเคมีที่สำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการควบคุมการสังเคราะห์โปรตีนและดีเอ็นเอของเซลล์ทั่วร่างกาย) แน่นอนว่ากระบวนการนี้มีผลต่อระบบการทำงานของร่างกายนับร้อยนับพันอย่าง หากระบบพันธุกรรมในร่างกายของเราดีขึ้น ก็จะส่งผลให้การออกกำลังกายของเรา ช่วยปรับปรุงระบบการหลั่งอิซูลินและระบบต้านการอักเสบของร่างกายได้ดีขึ้นเช่นกัน

นายแพทย์คาลล์ โจฮาน ซันเบิร์ค ผู้ค้นคว้าวิจัยได้ให้ความเห็นทิ้งท้ายไว้ในผลงานว่า “การศึกษานี้ที่จริงมีการรวบรวมตัวอย่างที่หลากหลาย เช่น กลุ่มผู้ป่วยเบาหวานชนิด 2 , กลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งมีความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆแตกต่างกัน แน่นอนว่าผลการวิจัยชิ้นนี้จะส่งผลต่อการวางแผนการออกกำลังกายของมนุษย์เรา ไปสู่ระดับการออกแบบการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับลักษณะของรหัสพันธุกรรมแต่ละคนเลยทีเดียว”

กลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งมีความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆแตกต่างกัน แน่นอนว่าผลการวิจัยชิ้นนี้จะส่งผลต่อการวางแผนการออกกำลังกายของมนุษย์เรา ไปสู่ระดับการออกแบบการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับลักษณะของรหัสพันธุกรรมแต่ละคนเลยทีเดียว"

"




หากความเครียดกำลังคุกคามคุณอยู่หรือไม่ ลองวิธีง่ายๆ ในการขจัดความเครียดนี้กันเถอะ

MR. MOONLIGHT / 26-Jun-17

“ต้องขอบคุณเคล็ดลับเหล่านี้ ที่ทำให้ช่วงวันหยุดยาวอันยุ่งเหยิงจอแจไม่ดูดพลังงานจากร่างกายฉันไปจนหมด หรือทำให้จิตใจฉันเหนื่อยล้าจนเกินไป”

ผ่อนคลายจิตใจในวันที่แสนยาวนานแบบง่ายๆ ด้วยการอุ่นชุดนอน

กิจกรรมอันมากมายในช่วงวันหยุดนั้น อาจทำให้สมองต้องทำงานอย่างหนักตลอดทั้งวันจึงไม่แปลก หากพบว่าคุณรู้สึกเหน็ดเหนื่อยหมดแรงอย่างประหลาดในช่วงเย็น มาลองเคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยการม้วนชุดนอน พร้อมถุงเท้าใส่นอน เลือกฟังก์ชั่นการอุ่นเครื่องอบผ้าแบบพรี-วอร์ม นำชุดนอนที่ม้วนแล้วเรียบร้อยวางทิ้งไว้เพียงไม่กี่นาที ชุดนอนของคุณก็จะอุ่นสบายพร้อมสวมใส่หลังอาบน้ำเสร็จเคล็ดลับนี้ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ซึ่งเปิดเผยผลการวิจัยว่า ระดับความอุ่นสบายลักษณะนี้ จะช่วยส่งสัญญาณประสาทให้ระบบประสาทอัตโนมัติผ่อนคลายลง ซึ่งส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลง, ความดันเลือดลดลง, ลดการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน ซึ่งทำให้ร่างกายตื่นตัวจนเกินไป รับรองว่าการสวมชุดนอนอุ่นๆ จะทำให้คุณผล็อยหลับไปในเวลาไม่เกิน 2 นาทีเลยทีเดียว

คลี่คลายสภาวะอารมณ์ที่ขมวดยุ่งเหยิงด้วยกลิ่นส้มหอมหวานสดชื่น

เมื่อรายการสิ่งที่ต้องทำในวันหยุดนั้นช่างมากมายก่ายกอง แถมกิจวัตรประจำวันอื่นๆ ก็ยังต้องจัดการสะสาง มันง่ายมากที่จะทำให้คุณเกิดเครียดได้ ลองสูดหายใจเอาน้ำมันหอมระเหยกลิ่นส้มหวานๆ เข้าไปให้เต็มปอดสัก 6 ครั้ง เนื่องจากมีผลการศึกษาจากสถาบันวิจัยการบำบัดด้วยกลิ่นและรสชาติ มหาวิทยาลัยชิคาโกที่ระบุว่า กลิ่นของผลไม้เมืองร้อนจำพวกส้ม สามารถกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่ควบคุมการปรับอารมณ์ของมนุษย์ทำให้สภาวะอารมณ์ที่ไม่คงที่สงบลงได้อย่างง่ายดายภายในเวลาไม่ถึง1นาที

ปลุกปลอบจิตใจอันเหนื่อยล้าด้วยการรำลึกความหลังอันสดใส

หากคุณกำลังรู้สึกหมดแรงและพลังจากวันอันแสนวุ่นวายอยู่ ลองหยิบรูปเก่าๆที่น่าตลกขบขันเมื่อครั้งวัยเยาว์ของคุณขึ้นมาดูสัก 60 วินาที สิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นความรู้สึกกระฉับกระเฉงสดชื่นขึ้นมาในจิตใจคุณอีกครั้ง นายแพทย์สก๊อต ฮอล์ทแมน ผู้เขียนเคล็ดลับของครอบครัวที่เปี่ยมสุขได้ระบุว่า ภาวะอารมณ์อ่อนไหวซาบซึ้งกับอดีตนั้นจะช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนอ็อกซิโตซิน ซึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณประสาทไปกระตุ้นความรู้สึกสงบและมีพลังให้คุณ นอกจากนั้นนายแพทย์ฮอล์ทแมนยังแนะนำให้เก็บรูปตลกๆ ของคุณในวัยเยาว์ไว้ในมือถือหรือคอมพิวเตอร์ของคุณอยู่เสมอ หรืออาจจะอัดกรอบน่ารักๆ วางไว้ในจุดที่สามารถมองเห็นได้ง่าย เพื่อให้คุณสามารถจ้องมองมันได้ทุกเวลาที่ต้องการ

กำจัดปัญหาภาวะเบื่อหน่ายเทศกาลด้วยการขยายไซส์ตัวอักษร

สภาวะอากาศที่ย่ำแย่ในฤดูหนาวสามารถทำให้ฮอร์โมนซึมเศร้าหลั่งออกมาได้มากกว่าปกติ ทำให้ประชากรสหรัฐกว่า 25 ล้านคนต้องตกอยู่ในสภาวะหดหู่เศร้าหมองการอ่านหนังสือหรือบทความต่างๆที่มีตัวอักษรขนาดใหญ่สามารถนำพาจิตใจของคุณไปสู่กรอบความคิดที่มีความสุขกว่า งานวิจัยจากประเทศเยอรมันระบุว่าหากเราอ่านข้อความต่างๆ ที่มีขนาดอักษรใหญ่กว่าปกติ (ไซส์ 28 หรือใหญ่กว่า) จะทำให้ความรู้สึกแง่บวกที่เกิดขึ้นจากการอ่านข้อความดีๆอยู่ได้นานขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็น เพราะสมองของมนุษย์จะรับรู้ว่าตัวอักษรที่มีขนาดใหญ่ว่าเป็นข้อความที่มีความสำคัญมากกว่าตัวอักษรขนาดทั่วไป

หลีกเลี่ยงการทำให้สมองคุณเหนื่อยล้าได้เพียงก้าวเดิน

หากความกดดันที่เกิดขึ้นในบางช่วงของชีวิตทำให้คุณรู้สึกมึนงงและอ่อนแรง ลองเดินไปมาอย่างกระฉับกระเฉงสัก 1 นาที สามารถช่วยคุณได้ ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ดระบุไว้ว่า การเดินไปมาอย่างกระฉับกระเฉงนั้นสามารถช่วยเพิ่มสติและสมาธิให้สมองในการทำสิ่งต่างๆ ถึง 2 เท่า และเพิ่มความรู้สึกสดชื่นมีพลังให้คุณได้ยาวเป็นชั่วโมง ดร. ดอน์ด แฮร์ซฮอร์น ผู้เขียนหนังสือ 8 วิธีช่วยให้คุณยิ่งใหญ่ได้กล่าวว่า “ความรู้สึกของคุณจะกำหนดได้ว่ารู้สึกสดชื่นมีพลังแค่ไหนโดยฟังคำสั่งจากสัญญาณต่างๆ ของร่างกายดังนั้น หากเรากระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นมีพลังด้วยการเคลื่อนไหวที่กระฉับกระเฉงร่างกายจะส่งสัญญาณประสาทไปสู่สมองที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นแจ่มใส มีสมาธิในการทำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น”

ลดอาการปวดมวนท้องต่างๆ ได้แค่เพียบจิบเครื่องดื่ม

อาหารมื้อพิเศษในช่วงเทศกาลต่างๆ มักจะมีความพิเศษและมีรสชาติอร่อยกว่าปกติแต่อาหารมื้อใหญ่เหล่านี้มักสร้างปัญหานานับประการให้แก่ระบบทางเดินอาหารของคุณหนทางที่จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาในระบบทางเดินอาหารลงได้มากกว่าครึ่งนั้นสามารถศึกษาได้จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแปซิฟิก เวสต์เทินแห่งเมืองลอสแองเจอลิส ที่เปิดเผยว่าการดื่มชาใบมะละกอ 6 ออนซ์ก่อนอาหารมื้อใหญ่ 30 นาที สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ระบบอาหารของคุณได้เป็นอย่างดี เพราะในใบมะละกอมีสารคาเพนและแทนนิน ซึ่งจำเป็นต่อการกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหาร

ความดันเลือดลดลง




อายุวัฒนะนับร้อยปี ไม่ใช่เรื่องยาก

KAJARP / 22-Jun-17

How to live to 100 years

Do you want to live 100 years or more? Be the firstborn to a mother who was less than 25 years old at conception. Researchers from the University of Chicago’s Center for Aging, in a study of centenarians, found that firstborn children to young mother were 1.7 times more likely to live long lives. They gathered information on 198 people born between 1890 – 1893 and matched them with the Social Security Death Index. The researchers speculated that young mothers are healthier and produced better quality eggs. Another possibility is that younger women haven’t been exposed to as many virus. The age of the father did not influence longevity. (Paper presented at Gerontological Society of America’s annual meeting Dec. 2006)

อายุวัฒนะนับร้อยปี ไม่ใช่เรื่องยาก

แน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องอยากมีอายุยืนยาวเป็นร้อยปี เชื่อไหมว่าการเป็นลูกคนหัวปีของคุณแม่ที่อายุน้อยกว่า 25 ปีนั้น ทำให้คุณมีโอกาสมีอายุยืนยาวสูงกว่าคนอื่น! ผลการวิจัยจากสถาบันวิจัยเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยชิคาโก้ เปิดเผยว่าบุตรคนโตที่มารดาให้กำเนิดขณะอายุน้อยนั้น มีโอกาสมีชีวิตยืนยาวกว่าคนทั่วไปถึง 1.7 เท่า โดยรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 198 คนที่เกิดช่วงปี 1890-1893 นำมาประมวณผลร่วมกับอัตราการเสียชีวิตของประชากรสหรัฐผู้ทำการวิจัยสันนิษฐานว่า มารดาที่อายุน้อยนั้นจะสามารถผลิตไข่ที่มีคุณภาพมากกว่ามารดาที่อายุมาก อีกกรณีคือมารดาที่มีอายุน้อยนั้น ไม่ได้มีโอกาสพบับไวรัส, สารอนุมูลอิสระ หรือโรคภัยต่างๆ เท่ามารดาที่มีอายุมาก ส่วนอายุของบิดานั้นไม่มีผลใดๆ ต่ออายุขัยของลูกเลยแม้แต่น้อย (ผลการวิจัยนี้ได้มีการนำเสนอในการประชุมประจำปีของสมาคมเวชศาสตร์ผู้สูงอายุแห่งสหรัฐอเมริกา เดือนธันวาคม ปี2006)

FitnessRx April 2007




100 วิธีง่ายๆ ที่น่าทึ่งที่จะทำให้ปี 2017 เป็นปีที่ดีที่สุดของเรา

MR. MOONLIGHT / 17-Jun-17

ลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอด

20 เคล็ดลับที่ดีที่สุดกับหนทางที่เป็นไปได้ในการกินคลีนพร้อมทั้งรู้สึกผอมไปพร้อมๆ กันคำตอบของปีใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก ไปกับไอเดียง่ายๆ ในรูปแบบการลดน้ำหนัก ช่วยเปลี่ยนวิธีกินพร้อมกับความรู้สึกที่ดีขึ้นกว่าเดิม

ไม่ปล่อยให้หิวมากเกินไป

ความลับอย่างหนึ่งของคนผอมคือ เตรียมรับมือกับความหิว ยามหิวเราจะกินมากกว่าปกติ ดังนั้นควรมีอาหารว่างเพื่อสุขภาพติดไว้เช่นอัลมอนด์ ไข่ต้ม หรือโปรตีนแท่ง

หลังออกกำลังกายกินให้ถูกมื้อ

นึกถึงมื้ออาหารทั้งหมด ที่มีโปรตีนสูง มากกว่าปาเกตตี้โบล็อกเนส พบว่ายิ่งมีการเผาผลาญในระหว่างออกกำลังกายไปมากเท่าไหร่ ผลคือจะยิ่งกินชดเชยมากกว่าที่ร่างกายต้องการ ให้ทำเหมือนคนญี่ปุ่นที่กินพออิ่มประมาณ 80% จะทำให้เราผอมลง

เพิ่มสีแดง ส้ม เขียวในจานอาหาร

รวมถึงเพิ่มสีสรรในมื้ออาหาร ช่วยให้ได้สารอาหารเพิ่มขึ้นอัตโนมัติ โดยไม่เพิ่มกิโลจูล โบนัสคือผลไม้และผักหลากสีอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์

ไม่กินคำสุดท้าย

ให้ทำในทุกๆ มื้ออาหาร ช่วยลดไปได้ 300 กิโลจูลต่อวัน เทียบเท่ากับ 4 กิโลกรัมต่อปี ฉะนั้นแชร์อาหารคำสุดท้าย เช่น ไอศกรีมช็อกโกแลต แล้วรอชื่นชมกับผลลัพธ์ของรูปร่างเป็นรางวัล

โฟกัสที่สมดุลของสารอาหาร

ทำความเข้าใจว่ามื้ออาหารประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แทนการนับกิโลจูล พลังงานที่จะได้ และไขมันที่จะลด ร่างกายจะได้ใช้เวลาย่อยสารอาหารนานขึ้นและช่วยให้เราอิ่มได้นาน

กลายเป็นคนดื่มหนัก

หมายถึงน้ำเปล่า มีความสำคัญ ช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้น รักษาระดับน้ำในร่างกายโดยไม่ดื่มน้ำน้อยหรือมากเกินไป เป้าหมายคือระหว่าง 1-2 ลิตรต่อวัน สามารถเติมมะนาวฝาน ใบมิ้นท์หรือแตงกวา เพื่อรสชาติที่ดีขึ้น

ลดนิสัยติดเค็ม

เกลือเป็นตัวการหลักอันหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและลดยาก อ่านฉลากโภชนาการเพื่อตรวจสอบปริมาณโซเดียมและเลือกอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ แล้วคุณจะพบว่าใบหน้าที่ดูบวมและหน้าท้องลดลงได้หลังจากลดเค็มและเลือกทานอาหารธรรมชาติ และนั่นคือการกินคลีน

กินเผ็ดในมื้อเย็น

รสเผ็ดช่วยให้อยากกินคาร์โบไฮเดรต จากการศึกษาของวารสาร British Journal of Nutrition ยังมีหลักฐานสนับสนุนอีกข้อในการเติมรสเผ็ดจาก นักวิทยาศาสตร์ของ State University of New York at Buffalo พบว่า สารแคปไซซินในพริกกระตุ้นการหลั่งเอ็นโดฟินให้ร่างกายรู้สึกดี อิ่มและอารมณ์ดี

ลดปริมาณเครื่องดื่มที่ใช้ลดน้ำหนัก

University of Texas Health Science Center พบว่า เครื่องดื่มเพียง 2 กระป๋องต่อวัน เพิ่มรอบเอวได้ 500% การศึกษาในสัตว์ทดลองของ Purdue University พบว่าสารให้ความหวานแทนน้ำตาลรบกวนความสามารถของร่างกายในการควบคุมพลังงานที่ได้รับจากอาหารหวาน เครื่องดื่มลดน้ำหนักอาจทำให้เรากินมากขึ้น เพราะร่างกายคิดว่ากินน้ำตาลอยู่และทำให้เราอยากอาหารมากขึ้น

เก็บอาหารไว้ในครัว

ถ้าระหว่างกินสายตาชอบสอดส่ายอาหาร ควรมีตัวช่วยเมื่ออิ่มแล้ว โดยเก็บอาหารไว้ในครัว, แบ่งส่วนของอาหารที่จะรับประทานใส่จาน แล้วนั่งรับประทาน ถ้าต้องการอาหารเพิ่ม เราจะต้องลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว จะช่วยให้เราต้องคำนึงถึงสิ่งที่เราจะรับประทานเพิ่มอีก

เริ่มมื้ออาหารด้วยซุป

จากงานวิจัยของ Penn State University คนที่รับประทานผักซึ่งมีกิโลจูลต่ำก่อนมื้ออาหาร ช่วยลดกิโลจูลได้ 20% ลองทานน้ำซุปผักเบาๆก่อนอาหารมื้อหลัก ช่วยให้รับประทานอาหารหลักได้น้อยลง

ทำใจผ่อนคลายในทุกๆ มื้ออาหาร

ความลับที่ทำให้น้ำหนักขึ้น เป็นผลจากการรับประทานหลังหนึ่งทุ่มไปแล้ว เราควรจะทานประมาณ 70% ของกิโลจูลที่ร่างกายต้องกายในแต่ละวันก่อนมื้อเย็น และประมาณ 30% ในมื้อเย็น ช่วยให้ร่างกายมีเวลาย่อยอย่างน้อย 90 นาทีก่อนที่จะนอน

ปรับแนวทางความคิด

แทนการใช้คำว่า ไขมัน หรืออ้วน ให้ใช้คำว่า พอดี หรือ สมส่วน เปลี่ยนคำว่า ทำไม่ได้ เป็นทำได้, สุขภาพไม่ดี เป็นสุขภาพดี ต้องใช้เวลาในการฝึก แต่เราสามารถเริ่มปรับความคิดด้านสุขภาพและน้ำหนักที่มุ่งหมาย การศึกษาตีพิมพ์ในวารสาร Appetite พบว่า คนที่รู้สึกผิดที่จะกินเค้กมักไม่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก เทียบกับคนที่กินแบบให้รางวัลกับตัวเอง

อยู่เหนือฮอร์โมนคุมความหิว

ความจริงคือแรงจูงใจของผู้ลดน้ำหนักให้ชนะความหิว อยู่ที่เหตุผลของร่างกายหลั่งฮอร์โมน ghrelin คุมความหิว ขับดันความอยากอาหาร ทางที่ดีที่สุดรับประทานปริมาณน้อย แต่บ่อยๆ ทุก 3 ชั่วโมง ระดับฮอร์โมนจะพุ่งสูงหากขาดคาร์โบไฮเดรต ทำให้เราอยากหวาน ดังนั้นให้ร่างกายและสมองได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ให้รับประทานอาหารที่มีดัชนีการปล่อยน้ำตาลต่ำ เช่น มันฝรั่งหวานหรือขนมปังธัญพืช

การหายใจช่วยขจัดความอยากอาหาร

เป็นที่ทราบกันดี แต่นานแค่ไหนแล้วที่คุณได้หายใจลึกๆ ยาวๆ แล้วหายใจออกอย่างช้าๆ เป็นเทคนิคง่ายๆ ช่วยให้สมองและเนื้อเยื่อได้ออกซิเจน ลดฮอร์โมนความเครียดทันที ดังนั้นหายใจลึกๆ ระหว่างวันหรือจะยิ่งดีถ้าได้เดินและได้สูดอากาศดีๆ ไปด้วย

ลองรับประทานอาหารด้วยความนุ่มนวล

คนกินเร็วจะกินได้มากกว่าคนกินช้าๆ จากงานวิจัยของ University of Rhode Island เหตุผลคือ กระเพาะอาหารใช้เวลา 20 นาทีในการส่งสัญญาณไปสมองให้เวลาที่เรากินแล้วรู้สึกพอ ให้เคี้ยวแต่ละคำอย่างน้อย 10 ครั้ง วางช้อนในแต่ละคำ ท่ามกลางบรรยากาศการรับประทานที่สบายๆ และไม่ควรเปิดโทรทัศน์ระหว่างที่รับประทานไปด้วย

ออกเดทกับห้องครัว

ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าการลดน้ำหนักที่ได้ผลมาจากอาหาร 80% จากออกกำลังกาย 20% วิธีง่ายๆที่จะทำ คือการทำอาหารรับประทานเอง ช่วยให้กำหนดปริมาณและสารอาหารให้ร่างกายได้ง่ายกว่า ใช้เวลาทำอาหารในวันหยุดเผื่อไว้เช่น ผักอบ, ข้าวกล้องหม้อใหญ่

รับประทานอาหารเช้าทุกๆ วัน

การศึกษาตีพิมพ์ใน British Journal of Nutrition พบว่าให้ผู้ใหญ่ เกือบ 900 คนรับประทานไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตตอนเช้า ช่วยให้อิ่มและกินอาหารระหว่างวันน้อยลงกว่าคนที่กินมื้อใหญ่หลังมื้อเช้า เป้าหมายคือเริ่มมื้อเช้าด้วยปริมาณอาหาร 1,000 กิโลจููล และเติมโปรตีนช่วยให้รู้สึกอิ่ม

การนอนหลับช่วยเผาผลาญไขมัน

เข้านอนเร็วขึ้น ช่วยลดน้ำหนักได้ภายใน 1 สัปดาห์ งานวิจัยจาก University of Pennsylvania พบว่า เพียงไม่กี่คืนที่อดนอนทำให้น้ำหนักขึ้นได้ นักวิทยาศาสตร์ให้ผู้ร่วมวิจัย ที่ได้นอน 10 ชั่วโมง 2 คืนติดต่อกัน กับกลุ่มที่ถูกจำกัดการนอน 5 คืนและให้ได้นอนชดเชย 2 คืน กลุ่มที่ถูกจำกัดการนอน มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 1.5 กิโลกรัม จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เราควรหลับตานอน

ขอบคุณผู้แปล แพทย์หญิง นฤมล ธีรนุลักษณ์ขอบคุณข้อมูลจาก Prevention Magazine




เคล็ดลับในการเลือกอาหารเสริมอย่างชาญฉลาด (2)

MR. MOONLIGHT / 13-Jun-17

คงความสดใส แม้อายุจะเพิ่มขึ้น

ถ้าคุณอยากจะแข็งแรง สดใส มีเรี่ยวแรงที่จะออกไปทำกิจกรรมที่คุณชอบได้อีกสักอย่างสิบปี อาหารเสริมต่อไปนี้อาจช่วยคุณได้

วิตามินรวม

ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังถกเถียงกันอยู่ว่า การทานวิตามินเสริมเป็นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับทุกคนหรือไม่ งานวิจัยพบว่า วิตามินรวมมีประโยชน์มากสำหรับคนที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป เพราะกลุ่มอายุนี้อาจย่อยและดูดซึมอาหารได้ไม่เต็มที่ หรืออาจจะมีปัญหาเรื่องฟัน ทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารได้หลากหลายเช่นเดิม ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะขาดสารอาหารได้

ลูทีน และ ซีแซนทิน (Lutein and Zeaxanthin)

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่คุณมักพบร่วมกับวิตามินซี วิตามินอี สารสกัดจากบิลเบอรี่ ในอาหารเสริมสูตรบำรุงสายตา เพราะสารเหล่านี้ช่วยป้องกันต้อกระจก และช่วยชะลอความเสื่อมของจอตา นอกจากนี้ ลูทีนยังช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งมดลูกและรังไข่อีกด้วย

แบลกโคฮอช (Black cohosh)

ถ้าคุณกำลังเผชิญกับอาการของวัยทอง แบลกโคฮอชจะเป็นผู้ช่วยที่สำคัญของคุณ งานวิจัยในปี 2010 พบว่า แบลกโคฮอชลดอาการร้อนและเหงื่อออกกลางคืนในวัยทองได้ถึง 26 % แต่ในงานวิจัยส่วนใหญ่จะใช้สารสกัดที่มาจากยุโรปมากกว่าทางอเมริกา หรือจะเป็นสารสกัดที่มาจากออสเตรเลียก็มีคุณภาพดีเช่นกัน ถ้าคุณสนใจที่จะทานอาหารเสริมตัวนี้ละก็ อาจปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรให้ช่วยเช็คแหล่งที่มาของวัตถุดิบสักนิดนึง

ชะเอม (Licorice) และ เรมานเนีย (Rehmannia)

ช่วยให้คุณเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนหรือวัยทองได้สบายขึ้น โดยช่วยการทำงานของต่อมหมวกไต เพราะเมื่อเข้าสู่วัยทองการทำงานของรังไข่เริ่มลดลง ต่อมหมวกไตก็จะเริ่มทำหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนต่างๆ แทน แต่ถ้าต่อมหมวกไตทำงานหนักจนเกิดภาวะต่อมหมวกไตล้า ก็จะทำให้อาการวัยทองยิ่งแย่ลงไปอีก สารสกัดของสมุนไพรสองชนิดนี้จะช่วยให้ต่อมหมวกไตรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น ทำให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและเข้าสู่ช่วงวัยทองได้อย่างมีความสุข

ซิลิกา (Silica)

เรามักจะคุ้นเคยกับแคลเซียมและวิตามินดีว่ามีผลต่อความแข็งแรงของกระดูก แต่ยังมีแร่ธาตุอีกหนึ่งชนิดที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ซิลิกา ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเนื้อกระดูก ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และยังช่วยให้ความแข็งแรงต่อเล็บ เส้นผม และ ผิวหนัง ส่งผลให้คุณยังคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้

อารมณ์แจ่มใส สมองเฉียบคม

ไม่ว่าคุณจะต้องการให้อารมณ์สดชื่นขึ้น หรือต้องการให้สมองปลอดโปร่ง สมุนไพรจากธรรมชาติต่อไปนี้ช่วยคุณได้

เซนต์จอห์นเวิร์ต (St John’s wort)

ถ้าคุณรู้สึกซึมเศร้าแต่ยังไม่อยากจะใช้ยาละก็ เซนต์จอห์นเวิร์ตอาจเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคุณ จากการทบทวนงานวิจัย 37 ชิ้นที่เกี่ยวกับสมุนไพรตัวนี้ พบว่า มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยาต้านซึมเศร้าในการรักษาภาวะซึมเศร้าระดับน้อยถึงปานกลาง โดยมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายา อย่างไรก็ตามหากคุณมียาที่ต้องทานประจำ สมุนไพรตัวนี้อาจมีผลเพิ่มหรือลดระดับยาตัวอื่นๆที่คุณทานร่วมด้วย ดังนั้นจึงควรใช้สมุนไพรตัวนี้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

พรมมิ (Brahmi)

หรือมีอีกชื่อว่า บาโคปา (Bacopa) เป็นสมุนไพรช่วยบำรุงระบบประสาทที่ศาสตร์การแพทย์ของอินเดียใช้กันมานาน และยังมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับ อย่างเช่น งานวิจัยของ Swinburne University of Technology พบว่า สมุนไพรตัวนี้สามารถเพิ่มการทำงานของสมอง รวมทั้งความไวในการรับข้อมูลทางการมองเห็น การประมวลความจำ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้จิตใจสงบ ลดความกังวล ส่งผลให้ความคิดและจิตใจผ่องใส่ขึ้น แต่คุณอาจจะต้องทานต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 12 สัปดาห์ เพื่อจะได้เห็นผลในการช่วยการทำงานของสมอง

แปะก๊วย (Gingko biloba)

แปะก๊วยเป็นพืชเก่าแก่ที่มีมานานเป็นหลายล้านปี งานวิจัยพบว่าแปะก๊วยช่วยในการเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของสมองในผู้ป่วยสมองเสื่อมระดับความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง จึงเหมาะกับผู้สูงวัยที่เริ่มมีการถดถอยของความจำมากกว่าคนอายุน้อยๆ ถ้าหากคุณอายุยังน้อยกว่า 60 ปี ต้องการเพียงให้สมองฉับไว พรมมิอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับคุณ

รู้หรือไม่ >>> ครึ่งหนึ่งของประชากรในออสเตรเลียทานวิตามินอาหารเสริมทุกวัน แต่ 33 % ของคนที่ทานนั้นไม่ได้แจ้งให้แพทย์ประจำตัวทราบ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะหากคุณต้องรับประทานยาอื่นๆร่วมด้วย

เทรนด์ใหม่ของอาหารเสริม

อาหารเสริมแบบดื่ม

ด้วยกระแสสมูตตี้ที่มาแรง ปัจจุบันเราจึงได้เห็นบรรดาผงต่างๆ ที่ใช้ผสมในเครื่องดื่มปั่นตามชั้นวาง มีทั้งแบบเสริมสารอาหาร วิตามิน เสริมภูมิคุ้มกัน หรือเพิ่มผักใบเขียว

สมุนไพร

ศาสตร์การแพทย์ที่ใช้สมุนไพรมีมานานนับพันปี และก็ยิ่งนำกลับมาใช้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเริ่มมีงานวิจัยรองรับ และยังทำให้เข้าใจในกระบวนการทำงานของสมุนไพรแต่ละชนิด เราจึงเริ่มเห็นสมุนไพรหลายๆ ตัววางในร้านขายยามากขึ้น และคุณภาพก็ดีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย

เครื่องเทศ

คุณอาจจะเริ่มได้ยินสามชื่อนี้บ่อยขึ้น ได้แก่ หญ้าฝรั่น(หรือแซฟฟรอน) ขมิ้น และขิง โดยหญ้าฝรั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องเทศที่ราคาแพงที่สุดในโลก มีสรรพคุณช่วยลดความซึมเศร้า ส่วนขมิ้นเองก็มีผลช่วยเรื่องสุขภาพจิตใจเช่นกัน ในขณะที่มีงานวัยพบว่าขิงช่วยลดอาการจากข้อเสื่อมได้

โพรไบโอติกส์

เป็นหัวข้องานวิจัยที่มาแรงมาก ในตอนนี้เราเริ่มที่จะเข้าใจแล้วว่า แบคทีเรียสายพันธุ์หรือส่วนผสมของสายพันธุ์ไหนบ้างที่มีประโยชน์ต่อโรคหรือปัญหาสุขภาพได้อย่างเฉพาะเจาะจง

คริลล์ออย (Krill oil)

ตอนนี้ลืมเมล็ดเชียกับอาซาอิเบอรี่ไปได้เลย เพราะน้ำมันที่สกัดจากกุ้งเคยตัวเล็กๆนี่ล่ะที่กำลังครองอันดับยอดขายที่พุ่งเร็วที่สุด

นอกจากนี้ยังมีอาหารเสริมที่กำลังเป็นเทรนด์ ได้แก่ อาหารไฟโต (กลุ่มพืชผักสีเขียว), อาหารเสริมสำหรับผิว, อาหารเสริมสำหรับลำไส้ และ อาหารเสริมสำหรับคนออกกำลังกาย

การพัฒนาของอาหารเสริม

ตอนนี้มีอาหารเสริมนับเป็นหมื่นชนิดในท้องตลาด ดังนั้นแต่ละแบรนด์จึงต้องหาความโดดเด่นของตัวเองให้ได้ อาหารเสริมแนวคิดใหม่เหล่านี้กำลังเป็นที่น่าสนใจสำหรับเรา

เคอร์คิวมินแบบดูดซึมง่าย (Bioavailable Curcumin)

สารเคอร์คิวมินจากขมิ้นชัน มีฤทธิ์ลดการอักเสบได้ดีมาก แต่ปัญหาคือ สารนี้ดูดซึมเข้าร่างกายได้ไม่ดีนัก ตอนนี้หลายแบรนด์เลยได้คิดค้นวิธีการที่ทำให้เคอร์คิวมินอยู่ในรูปแบบที่พร้อมต่อการดูดซึมและนำไปใช้ในร่างกาย

การรวมตัวของโพรไบโอติกส์ และพรีไบโอติกส์ (Wholebiotics )

พรีไบโอติกส์ คือ สารที่แบคทีเรียชนิดดีจำเป็นต้องใช้เป็นอาหารและเพื่อการเจริญเติบโต ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแบคทีเรียหลากหลายสายพันธุ์ร่วมกับพรีไบโอติกส์

คริลล์ออยแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Sustainable Krill Oil)

นอกจากคริลล์ออยจะเป็นแหล่งของโอเมก้า 3 ที่ดีแล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระตัวสำคัญที่เรียกว่า แอสต้าแซนธิน ตอนนี้หลายๆบริษัทผู้ผลิตเริ่มหันมาใส่ใจกับขั้นตอนการเก็บวัตถุดิบ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ไม่มีการทำร้ายสิ่งแวดล้อมในท้องทะเล

ยูบิควินอล (Ubiquinol)

สารตัวนี้เป็นรูปแบบใหม่ของโคเอนไซม์คิวเทน โดยมีความโดดเด่นที่เป็นที่เป็นแอคทีฟฟอร์มทำให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้นและนำมาใช้เพื่อเพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ได้อย่างเต็มที่

ขอบคุณผู้แปลโดย แพทย์หญิง อรกมล อินกองงามขอบคุณข้อมูลจาก Prevention Magazine




เคล็ดลับในการเลือกอาหารเสริมอย่างชาญฉลาด (1)

MR. MOONLIGHT / 7-Jun-17

ความต้องการให้ร่างกายสดชื่น เสริมภูมิคุ้มกัน หายจากไข้หวัดเร็วขึ้น นอนหลับสนิท ลดอาการวัยทอง เหตุผลต่างๆ เหล่านี้เป็นสาเหตุให้คนที่รักสุขภาพหลายๆ ท่านเลือกที่จะซื้อหาวิตามินและอาหารเสริม และทำให้ตลาดอาหารเสริมขยายตัวขึ้นทุกปี แน่นอนว่า อาหารจริงๆ ที่ประกอบด้วยสารอาหารอย่างครบถ้วนนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ว่าน้อยคนที่จะสามารถรับประทานอาหารและได้รับสารอาหารเหล่านั้นได้ตามที่ร่างกายต้องการ

วิตามินและอาหารเสริม สามารถช่วยป้องกัน รักษาหรือยับยั้งอาการ โรคบางอย่างได้ โดยเป็นแหล่งของสารสกัดและสารอาหารที่เข้มข้น ซึ่งยากที่จะได้รับจากอาหารตามธรรมชาติอย่างพอเพียง ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้อาหารเสริมด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น เพื่อเพิ่มระดับวิตามินที่ขาดในร่างกาย บรรเทาปัญหาทางสุขภาพ หรือเพียงแค่ต้องการใช้บำรุงสุขภาพทั่วไป

กฎเหล็กที่ต้องคำนึงถึงเสมอ คือ

1. ปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ก่อนใช้อาหารเสริมทุกครั้ง ซึ่งอาจเป็นแพทย์ เภสัชกร หรือนักโภชนาการ

2. ต้องมั่นใจว่าเลือกใช้อาหารเสริมตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

3. ปริมาณหรือขนาดยาต้องเหมาะสม

4. ใช้ในระยะเวลาที่เหมาะสม

สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

โรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ซึ่งป้องกันได้โดยการปรับพฤติกรรมสุขภาพ โดยอาจจะมีอาหารเสริมเหล่านี้เป็นตัวช่วย

สารสกัดจากมะกรูด (Citrus bergamot extract)

ช่วยลดระดับไขมันในเลือด เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคอเลสเตอรลในเลือดสูง โดยสารสกัดจะไปช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ร่างกายใช้สร้างคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ ที่มีงานวิจัยพบว่าสามารถช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้

ฮอว์ธอร์น (Hawthorn)

อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟลาโวนอยด์ รวมถึงสารโปรไซยานิดินซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยการไหลเวียนของเลือด และปกป้องผนังหลอดเลือด แพทย์ด้านธรรมชาติบำบัดมักจะใช้สารสกัดจากพืชชนิดนี้ในผู้ป่วยโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง

น้ำมันปลา (Fish oil)

ถ้าจะมีอาหารเสริมตัวไหนที่ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นตรงกันแล้วละก็ ต้องยกให้น้ำมันปลา เพราะมีสรรพคุณครอบคลุมตั้งแต่ช่วยเรื่องป้องกันโรคสมองเสื่อม บรรเทาการอักเสบของข้อ ไปจนช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอตาเสื่อม อีกทั้งยังช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และความดันโลหิตสูง มีงานวิจัยพบว่า การรับประทานอาหารที่โอเมก้า 3 สูง จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจไปได้ถึง 50 %

เสริมความแข็งแกร่งให้ภูมิคุ้มกัน

ถ้าคุณป่วยง่าย ไปเที่ยวไหนก็พาลจะติดหวัดจากใครๆ มาเป็นประจำละก็ ก่อนที่จะไปหาชุดปลอดเชื้อแบบมนุษย์อวกาศใส่ ลองมองหาวิตามินและสารอาหารต่อไปนี้ก่อนค่ะ

วิตามินดี

เรามักจะคุ้นเคยวิตามินตัวนี้ว่าช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก แต่ทุกวันนี้เราพบแล้วว่า วิตามินดีมีบทบาทสำคัญต่อภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีประชากร 1ใน 4 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา มีภาวะขาดวิตามินดี ถ้าคุณเป็นหวัดหรือติดหวัดจากคนอื่นง่ายๆ ละก็ อาจจะลองปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจระดับวิตามินดีในร่างกาย โดยทั่วไปในช่วงฤดูร้อน การได้รับแสงแดดอ่อนๆ อย่างพอเพียง ก็จะช่วยเพิ่มระดับวิตามินดีได้ตามธรรมชาติ แต่ถ้าอากาศไม่เป็นใจ หรือ ถ้าคุณไม่สามารถได้รับแสงแดดได้พอตลอดทั้งปีแล้วละก็ วิตามินดีในรูปอาหารเสริมอาจจะเป็นตัวเลือกที่สะดวกกว่า

ฟ้าทะลายโจร (Andrographis)

เป็นสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์แผนดั้งเดิมมายาวนาน ทั้งในประเทศอินเดีย เกาหลี และจีน มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านแบคทีเรีย เชื้อรา และยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบอีกด้วย มีงานวิจัยพบว่าช่วยในการรักษาไข้หวัดและการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนให้ดีขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน จริงๆ แล้วสมุนไพรตัวนี้ช่วยป้องกันการเป็นหวัดได้ด้วย แต่คุณต้องทานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือนถึงจะออกฤทธิ์ในการป้องกันได้

แอสทรากาลัส (Astragalus)

หรือคุณอาจจะเคยได้ยินในชื่ออื่น เช่น Green dragon หรือ Mongolian milk สารในแอสทรากาลัสจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวซึ่งมีหน้าที่คอยทำลายเชื้อโรคต่างๆ และยังช่วยในการทำงานของแอนติบอดีเพื่อตอบสนองต่อเชื้อที่มารุกรานคุณอีกด้วย ข้อแตกต่างของแอสทรากาลัสกับอาหารเสริมตัวอื่นๆในกลุ่มนี้ คือ ไม่แนะนำให้ใช้ในการติดเชื้อเฉียบพลัน เช่น ไข้หวัด เพราะอาจจะทำให้คุณรู้สึกแย่ลงได้ แอสทรากาลัสเหมาะที่จะใช้ในกรณีมีการติดเชื้อแบบเรื้อรัง หรือเป็นมานานแล้วมากกว่า

สังกะสี (Zinc)

สังกะสีหรือซิงค์เป็นตัวหลักในการทำงานของภูมิคุ้มกัน มีหน้าที่ตั้งแต่ช่วยในการสร้างและการทำงานของเม็ดเลือดขาวไป จนถึงช่วยคงความแข็งแรงของผิวหนัง หากคุณป่วยเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ่อยๆ ละก็ แร่สังกะสีจะช่วยให้คุณกลับมาแข็งแรงได้โดยไว แต่ทั้งนี้ยังไม่แนะนำให้ทานแร่สังกะสีต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ โดยไม่ได้อยู่ในคำแนะนำหรือคำสั่งของแพทย์ เพราะอาจทำให้ระดับธาตุเหล็กในเลือดของคุณลดลง หรือเกิดภาวะที่แร่สังกะสีในร่างกายเกินขนาดได้

รู้หรือไม่ >>> ประชาชนชาวออสเตรเลียมีการใช้จ่ายเพื่อซื้อวิตามินและอาหารเสริมเฉลี่ยครัวเรือนละ 105 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อปี (หรือประมาณ 2700 บาท) โดยอาหารเสริมที่นิยมที่สุด ได้แก่ อาหารเสริมสำหรับป้องกันหรือลดอาการไข้หวัด, น้ำมันปลา และ วิตามินรวม

ร่างกายสดชื่น นอนหลับเต็มอิ่ม

ถ้าคุณมักจะอ่อนเพลีย หมดแรงจนอยากจะทิ้งตัวลงนอน แต่ว่าพอจะนอนก็นอนหลับไม่สนิท วิตามินต่อไปนี้จะช่วยให้คุณพักผ่อนได้เต็มที่ยามหลับ และกระปรี้กระเปร่ายามตื่น

วาเลอเรียน (Valerian)

ความเครียดและจิตใจที่ฟุ้งซ่าน เป็นศัตรูตัวฉกาจของการนอนหลับฝันดีของคุณ วาเลอเรียน เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ช่วยผ่อนคลายช่วยทำให้คุณหลับสนิทได้เร็วขึ้น โดยกระตุ้นสารสื่อประสาทที่เรียกว่า GABA ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำให้คุณสงบ และผ่อนคลาย คุณสามารถหาวาเลอเรียนได้ในอาหารเสริมรูปแบบน้ำหรือเม็ด โดยมักจะถูกรวมอยู่กับสมุนไพรที่ช่วยการนอนตัวอื่นๆ เช่น ดอกฮอปส์ (Hops) ดอกเสาวรส (Passionflower) และ ดอกคาโมมายล์ (Chamomile) เป็นต้น

แคลเซียม และ แมกนีเซียม

ถ้าหากคุณมีปัญหาหลับไม่สนิทเพราะมีกล้ามเนื้อตึงตัวหรือชอบเป็นตะคริวเวลานอนแล้วละก็ แคลเซียมและแมกนีเซียมอาจช่วยให้คุณภาพการนอนของคุณดีขึ้นได้ โดยแร่ธาตุสองตัวนี้มีฤทธิ์ช่วยลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้คุณสามารถหลับได้สนิทขึ้น

วิตามินบี

วิตามินในกลุ่มนี้เป็นตัวสำคัญที่ช่วยในการสร้างสารแห่งความสุขที่เรียกว่า ซีโรโทนิน และยังช่วยในการทำงานของระบบประสาท ทำให้คุณตอบสนองต่อความเครียดได้ดียิ่งขึ้น แต่คุณอาจจะต้องระวังขนาดของ วิตามินบี 6 ที่รวมอยู่ในวิตามินบีรวม ไม่ให้เกิน 50 มิลลิกรัมต่อวัน

โรดิโอล่า (Rhodiola)

มีงานวิจัยที่สวีเดนพบว่า คนที่อ่อนล้าจากความเครียดเมื่อรับประทานโรดิโอล่าหรือรากโกลเด้นเป็นเวลา 28 วัน แล้วทำให้อาการอ่อนล้านั้นดีขึ้น และยังส่งผลต่อการทำงานของจิตใจและสมาธิให้ดีขึ้นอีกด้วย สมุนไพรตัวนี้จะช่วยเพิ่มสมรรถภาพของทั้งร่ายกาย จิตใจ และอารมณ์ อีกทั้งยังจัดเป็นสมุนไพรที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนต่อมหมวกไต เรียกได้ว่าเป็นอาหารเสริมที่เหมาะกับคุณผู้หญิงที่ชีวิตประจำวันยุ่งเหยิงและเร่งรีบ

เรามันได้ยินชื่อเสียงของโคเอนไซม์คิวเทนในด้านสุขภาพของหัวใจ แต่ตอนนี้มันกำลังดังมากในเรื่องช่วยฟื้นฟูพลังงาน และความทนทานในการออกกำลังกาย โคเอนไซม์คิวเทนเป็นสาระสำคัญที่ทุกๆ เซลล์ในร่างกายต้องใช้ในการสร้างพลังงาน วิตามินตัวนี้จึงมีจุดเด่นในด้านการเพิ่มพลังงานทางกาย

ฟื้นฟูระบบทางเดินอาหาร

ถ้าคุณมีปัญหาท้องอืด อาหารไม่ย่อยบ่อยๆ อาหารเสริมกลุ่มนี้จะช่วยบรรเทาอาการให้คุณได้

โพรไบโอติกส์

ในทางเดินอาหารของเรานั้นมีแบคทีเรียอาศัยอยู่กว่า 500 สายพันธุ์ คิดเป็นน้ำหนักได้ถึง 2 กิโลกรัมเลยทีเดียว โดยเชื้อแบคทีเรียฝ่ายดีเหล่านี้จะช่วยการย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพ และยังช่วยเวลาคุณมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน หรือลำไส้อักเสบ หลักสำคัญในการเลือกโพรไบโอติกส์ คือ เน้นเลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้มากกว่าเลือกที่ราคาถูก เพราะมีการทดสอบโพรไบโอติกส์บางยี่ห้อพบว่ามีปริมาณจุลินทรีย์ที่มีชีวิตน้อยกว่าที่ควร

แอล-กลูตามีน (L-glutamine)

เป็นกรดอะมิโนที่จะช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมผนังลำไส้ โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะลำไส้รั่ว หรือ Leaky gut syndrome ซึ่งคุณสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยว่ามีภาวะลำไส้รั่วหรือไม่ เพื่อที่จะรับการรักษาอย่างเหมาะสม

เอนไซม์ย่อยอาหาร

เมื่ออายุมากขึ้น ระบบการย่อยก็มักจะทำงานช้าลง และทำให้ท้องอืดง่ายหลังมื้ออาหาร หรือท้องผูกง่ายขึ้น การทานเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารพร้อมมื้ออาหารจะช่วยลดปัญหานี้ และยังช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากอาหารมื้อนั้นได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

ขอบคุณผู้แปลโดย แพทย์หญิง อรกมล อินกองงามขอบคุณข้อมูลจาก Prevention Magazine




คำแนะนำจากนักโภชนาการ

MR. MOONLIGHT / 31-May-17

“ฉันเล่นโยคะไหว้พระอาทิตย์ทุกเช้า ที่จริงมันไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายให้เต็ม 30 นาทีทุกเช้าด้วยซ้ำ ทั้งหมดที่ฉันทำก็แค่ทำท่าไหว้พระอาทิตย์ให้ครบทั้งท่าแค่ 6 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเอง ในทุกมุมการเคลื่อนไหวของท่านี้จะทำให้คุณต้องใช้ข้อมือ ข้อเท้า และตัวฝ่าเท้า ดังนั้นมันก็ไม่ต่างจากการที่ฉันได้ยืดหยุ่นและเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ร่างกายไปพร้อมๆกันเลย” สุกัญญา มหาจาน อายุ 57 ปี เสมียนเกษียณอายุงาน

เคล็ดไม่ลับสำหรับวิถีรักสุขภาพ

“ไม่มีเวลาจะนั่งปั่นสมูทตี้ดื่มมันทุกวันใช่หรือไม่” เทส มาสเตอร์ ผู้เขียน เดอะ เบลนเดอร์เกิร์ล จะมาเปิดเผยเล็ดไม่ลับของการมีสุขภาพดีว่ามันง่ายดายเพียงใด

ช็อปปิ้งสักอาทิตย์ละครั้ง

อย่างแรก การที่จะทำให้การปั่นสมูทตี้อร่อยๆ ได้ทุกวัน เราสามารถจัดเตรียมส่วนผสมต่างๆ ได้ง่ายๆ โดยแบ่งตามประเภทส่วนผสมดังนี้ ของเหลว (นม, น้ำมะพร้าว), ส่วนผักใบเขียว(ผักโขมหรือเคล), ส่วนของผลไม้สดหรือแช่แข็ง(กล้วย,มะม่วง,อะโวคาโด), ถั่วและธัญพืชต่างๆ (อัลมอนด์,เมล็ดเจีย,อัลมอนด์ บัตเตอร์) และส่วนเพิ่มพลังงาน(ผงโกโก้,ผงโปรตีน,สมุนไพร และเครื่องเทศ)

เตรียมของไว้ก่อน มีชัยกว่า

แบ่งส่วนประกอบของสมูทตี้ไว้เป็นวันๆ หนึ่งถุงสำหรับส่วนประกอบของสมูทตี้หนึ่งวัน แบ่งส่วนของแข็งที่ต้องใช้ปั่นให้พร้อมสำหรับการปั่นไว้ในถุงซิปล็อค เช่น ผลไม้แช่แข็ง, ส่วนของผักใบเขียว และส่วนประกอบอื่นๆ หลังจากนั้นอย่าลืมเขียนชื่อส่วนของเหลวที่ต้องใช้ปั่นผสมลงบนแต่ละถุง เช่น นมอัลม่อนด์ 1 ถ้วยตวง จัดการเก็บถุงเหล่านี้ไว้ในช่องแช่แข็งเอาไว้ เช้ามาพร้อมเทปั่นเลยจ๊ะ

ปั่นเร็วขึ้น รสสัมผัสก็นุ่มขึ้นนะจ๊ะ

หนทางแห่งสมูตตี้เนื้อนุ่มอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมด้วยเทคนิคง่ายๆ เช่น รินส่วนที่เป็นของเหลวลงเครื่องปั่นไปก่อน หลังจากนั้นก็ได้เวลาโยนส่วนประกอบอื่นๆ ของสมูทตี้ลงไปได้เลย ถ้าไม่ได้เตรียมแบ่งส่วนผสมเป็นถุงๆ ไว้ก่อนล่ะ? แค่ใส่ของเหลวและส่วนผสมที่นิ่มลงเครื่องปั่นก่อน หลังจากนั้นก็ตามด้วยผักใบเขียว ปิดท้ายด้วยส่วนประกอบที่แข็ง หลังจากนั้นก็เดินเครือ่งปั่นได้เลยคะ ใช้ความเร็วสูง ปั่นเร็วๆ จนเข้ากันดี เท่านี้ก็ได้ดื่มสมูทตี้นุ่มๆ ชื่นใจแล้วคะ

ทำความสะอาดหลังปั่นสมูทตี้ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด

หลังจากเทเครื่องดื่มเสร็จ คุณสามารถทำความสะอาดเครื่องปั่นได้ง่ายๆแค่นำเครื่องปั่นไปล้างน้ำผ่านๆรอบหนึ่ง หลังจากนั้นเทน้ำอุ่นลงในเครื่องปั่น หยดน้ำยาล้างจานลงไปแค่1-2หยด หลังจากนั้นก็เดินเครื่องปั่นด้วยความเร็วสูงประมาณ30 วินาที ล้างน้ำอีกรอบก็วางผึ่งให้แห้งได้เลย ช่างง่ายดายอะไรเช่นนี้!

ความเครียดเหรอ คุณหมอมีข้อแนะ

อาชีพแพทย์นับว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีความเคียดและความกดดันสูงมาก พวกเขามีเคล็ดลับยังไงในการจัดการกับความเครียดเหล่านี้น่ะเหรอ มาฟังกันเลยดีกว่า

ดึงสติให้อยู่กับลมหายใจเข้า-ออก

เอวิว่า รอมม์ แพทย์ด้านสมุนไพรและการผดุงครรภ์แนะนำว่า นี่เป็นเทคนิกที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการดึงสติของคุณให้กลับมาอยู่กับตัวเอง สามารถทำได้โดยง่าย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม จะในท่านั่ง,ยืน,เดิน หรือท่านอนก็ได้ ขอเพียงแค่คุณ สัมผัสถึงความรู้สึกของทุกๆ ส่วนในร่างกายที่แตะพื้นดิน รู้สึกถึงพลังงานที่ไหลวนระหว่างตัวคุณและผืนดิน เริ่มหายใจตามปกติสักสองสามลมหายใจ ที่เหลือค่อยนับ 1-4 เวลาหายใจเข้า และพูดกับตัวเองในใจ ว่า “ฉัน” หายใจออกนับ 1-4 แล้วพูดกับตัวเองในใจต่อว่า “สงบ” นึกใจใน “ฉัน…สงบ”และหายใจเข้า-ออกเช่นนี้ติดต่อกันประมาณ 4 ครั้ง หรือทำติดต่อกัน 2นาที เพียงเท่านี้คุณก็จะช่วยจัดระเบียบจิตใจและสติของตัวคุณเองได้แล้ว

ปรับจูนศูนย์ถ่วงชีวิตด้วยการกดจุด

คุณหมอแดเนียล ฮซู แพทย์ฝังเข็มบำบัดได้แนะนำว่า การนวดกดจุดง่ายๆ สามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและระบบประสาทจากความเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวันได้ ลองกดจุดบริเวณง่ามนิ้วระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ดู มันสามารถช่วยลดความเครียดระหว่างการประชุมหฤโหด หรือคลาสเรียนแสนเครียด รับรอง ไม่มีใครรู้เลยว่าคุณกำลังนวดกดจุดอยู่

มาดื่มน้ำมะนาวเพื่อสุขภาพกันเถอะ

แพทย์ศัลยกรรมความงาม แอนดรู ออดอนกล่าวไว้ว่า ฉันเริ่มวันใหม่ทุกเช้าด้วยน้ำมะนาวเย็นๆ 1 แก้ว มันมอบวิตามินซีโดสใหญ่ให้กับฉัน แถมยังช่วยเรื่องการเผาผลาญไขมันอีกด้วย อันที่จริงเมื่อคุณดื่มน้ำทุกเช้า ผิวหนังของคุณก็จะเต่งตึงสดใสแน่นอนอยู่แล้ว เท่ากับว่าการดื่มน้ำมะนาว 1 แก้วทุกเช้า ช่วยมอบทั้งร่างกายที่แข็งแรงและผิวพรรณที่เปล่าปลั่งสดใสให้คุณอีกด้วย คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม

เปิดเพลงนุ่มๆ คลอเบาๆ เพื่อผ่อนคลายจิตใจ

แฟรงค์ ลิปแมน แพทย์และผู้เขียนหนังสือ มิติใหม่สู่สุขภาพที่ดี: การเปลี่ยนแปลงง่ายๆที่จะนำคุณไปสู่การมีสุขภาพดีแบบองค์รวม (อาติสัน) ได้ให้คำแนะนำที่น่าสนใจไว้ว่า คลื่นจังหวะภายในร่างกายของมนุษย์เรานั้นสามารถเชื่อโยงกับจังหวะเพลงจากภายนอกได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นเวลาที่คุณไปชายทะเล จังหวะการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจคุณจะช้าลง จังหวะของทั้งสองสิ่งนี้จะเหมือนกับจังหวะของเสียงคลื่นกระทบฝั่ง มันเป็นเรื่องจริงที่มหัศจรรย์มาก

ออกมาเต้น เอ้า! ออกมาเต้น!

แพทย์ระบบประสาท อีเลน ไวชลี่ย์เปิดเผยว่า มีงานวิจัยหลายชิ้นที่แสดงว่าเหตุการณ์แสนโรแมนติกต่างๆ ช่วยลดการหลั่งฮอร์โมนหลากหลายตัวที่เกี่ยวกับความเครียด และสำหรับฉันกับสามีนั้น การเต้นรำเป็นอะไรที่แสนจะโรแมนติก แค่เพียงได้เต้นรำไปรอบๆบ้าน มันก็ช่วยทำให้ฉันรู้สึกอ่อนเยาว์ลงแถมยังตื่นเต้นสนุกสนาน ช่วงเวลาที่ได้จุดประกายความรู้สึกเหล่านั้นมันช่วยให้ฉันเอาชนะความเครียดได้อย่างง่ายดายเลย

จดจำและบันทึกความสุขของคุณเอาไว้ให้มั่น

แกล ซอลท์ จิตแพทย์และนักเขียนชื่อดังกล่าวว่า ในทุกๆคืนจงจดบันทึกสิ่งที่ทำคุณรู้สึกดีวันละ3สิ่ง มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ เช่นได้พบเจอกับกาแฟรสเยี่ยม หรือสิ่งที่เป็นจริงเป็นจังเช่นการสนับสนุนจากครอบครัว การจดบันทึกแบบนี้มีผลกระทบต่อสภาพจิตใจของคุณอย่างไม่น่าเชื่อ และเชื่ออะไรไหม เรื่องราวดีๆ ทุกเรื่องนี้มันจะค่อยๆ ซึมซับลงไปในใจคุณอย่างลึกซึ้งตลอดกาลเลยนะ

ลดน้ำตาลลงกันดีกว่า

เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดอยากขนมหวานขึ้นมา ลองทำขนมสุขภาพแสนเก๋กันดูเถอะ เริ่มจากขนมปังธัญญพืช 1 แผ่น ทาด้วยเนยอัลม่อน 1 ช้อนโต๊ะ ท็อปปิ้งหน้าด้วยกล้อยหอม โห แค่นี้ก็ฟินได้ง่ายๆ แถมได้สุขภาพอีกด้วยนะ

เพียง 60 วิ ชีวิตเปลี่ยน

บ๊ายบายความเครียด:ลองกำจัดความเครียดออกไปง่ายๆด้วยการแช่ในอ่างน้ำอุ่นๆ ที่ละลายเกลืออาบน้ำเอปซัมลงไป โห ได้ทั้งการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและทำให้จิตใจสงบในคราวเดียวกัน

จิตอาสาให้เป็นนิสัย:การละอัตตาของตนจนเป็นนิสัยนั้นแน่นอนว่าจะต้องช่วยเพิ่มความสุขและสงบให้ชีวิตคุณ เมื่อได้พบเจอกับความสุขสงบแล้วอย่างลืมสร้างเสริมลักษณะนิสัยที่ไม่เห็นแก่ตัวแบบนี้กับผู้อื่นต่อด้วยล่ะ สังคมคงจะน่าอยู่ขึ้นอีกโขเลยล่ะ

เคี้ยวให้เพลิน:การเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อยๆช่วยให้ความจำดีขึ้น แถมได้กลิ่นมิ้นหอมชื่นใจมาเป็นของแถมอีกด้วยนะเออ

สร้างสรรค์แล้วจะสดใส: ลองปล่อยพลังสร้างสรร์และความเป็นศิลปินในตัวคุณออกมากันเถอะ มันสามารถเริ่มได้ง่ายๆด้วยการมองหาคลาสงานศิลปะหรืองานประดิษฐ์ต่างๆในชุมชนใกล้บ้านดูสิ เชื่อได้เลยว่ามันจะช่วยปรับจิตใจและทัศนติของคุณต่อส่งรอบตัวได้ดี

น้ำมะพร้าว)

มะม่วง




สิบปากว่า ไม่เท่าลงมือทำ เด็กลง 10 ปี ไม่ยากอย่างที่คิด

MR. MOONLIGHT / 25-May-17

เคล็ดลับการเปลี่ยนแปลงตัวเองส่งตรงจากแพทย์, นักโภชนการ, เชี่ยวชาญด้านอาหาร และผู้ทรงคุณวุฒิด้านอื่นๆ อีกมากมาย

เดฟ แอสเปรย์คือผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมอาหาร ผู้เขียนบทความ “การไดเอตที่คงกระพัน” ได้เผยแพร่เคล็ดลับในการมีสุขภาพดีของเขาให้กับบรรดาหนุ่มสาวรักสุขภาพตามนี้

จงกินน้ำมันมะพร้าวให้มากขึ้น!

เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันได้รับประทานน้ำมันมะพร้าว ฉันรู้สึกได้ว่าสมองได้รับพลังงานคุ้มค่าทุกหยดจริงๆ ทำไมน่ะเหรอ? เพราะน้ำมันมะพร้าวสามารถเปลี่ยนรูปเป็นคีโตนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคีโตนก็คือสารที่ช่วยแปรรูปไขมันให้เป็นพลังงานเข้าสู่เซลล์ได้โดยไม่ต้องง้อกลูโคสเลย ดังนั้นมันจึงเหมาะมากกับการเติมพลังงานเข้าสู่เซลล์สมอง แถมถ้าได้ดื่มกาแฟอีกหน่อยก็ช่วยเพิ่มพลังงานสะอาดแก่สมอง แล้วยังช่วยลดความอยากอาหารได้อีกด้วย แหม เริ่ดไปเลยไหมล่ะ

จงเติมอะโวคาโดใส่มื้ออาหารของคุณ!

การกินอะโวคาโดสักหนึ่งถึงสองลูกต่อวันช่วยเพิ่มโอเมก้า 3S ให้แก่ร่างกาย ซึ่งโอเมก้า 3S นี้จะไม่ใจเสาะย่อยสลายไปโดยง่ายเมื่อเผชิญกับความร้อนเหมือนโอเมก้าตัวอื่นๆ เจ้าโอเมก้า 3S นี้จะช่วยสร้างผนังเซลล์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งแน่นอนว่ามันเท่ากับเป็นการบำรุงเซลล์ทั่วร่างกาย ส่วนที่เป็นสีดำติดกับเปลือกของอะโวคาโดนั้นเป็นส่วนที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินสารพัดชนิด แต่ระวังอย่าไปทานเนื้อส่วนสีดำน้ำตาลไปนะจ๊ะ เพราะส่วนที่มีสีน้ำตาลนี่เป็นแหล่งของสารพิษต่างๆ แถมยังมีฮีสตามีน สารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ซะด้วย

ปล่อยกายปล่อยใจให้เป็นหนึ่งกับความมืด ก็ไม่เลวนะ

ทำให้แน่ใจเสมอ ว่าห้องนอนจะต้องมืด มืดมิด มืดตื๋อ มืดสนิทจริงๆ เพราะมันเหมาะกับการหลับสนิทตลอดคืน บางครั้งฉันถึงขนาดใช้เทปพันสายไฟสีดำสนิทแปะตามจุดเล็กจุดน้อยที่จะปล่อยให้แสงเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอนเวลาฉันไปพักโรงแรม เอาจริงๆ ม่านกันยูวีที่ตัดแสงได้ดีนี่จำเป็นต่อการติดห้องนอนมากจริงๆ นะ ถ้าคุณอยากจะหลับพักผ่อนอย่างสบายอย่างแท้จริง ลองดูเถอะ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง

มาปรุงเคลอร่อยๆ กัน

การรับประทานเคลดิบไม่ได้ส่งผลดีอย่างที่คุณคิด การต้มเคลให้สุก ตัวน้ำที่ต้มจะช่วยชะล้างกรดอ็อกซาลิกซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการเกิดนิ่วในไตออกไป ยิ่งลาซิเนโต้เคล (บางครั้งถูกเรียกว่าเคลดำ, ทัสแคนเคล, เคลไดโนเสาร์) ยิ่งเป็นเคลที่มีกรดอ็อกซาลิกน้อยเข้าไปใหญ่ การปรุงเคลนั้นไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แค่คุณต้มมันจนนิ่มลง แค่นั้นมันก็จะเยี่ยมมากสำหรับจานสลัดแล้ว

จุ่มใบหน้าลงในน้ำผสมน้ำแข็งสัก 1-2 นาทีสิ ความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจะทำให้คุณทึ่ง

การจุ่มใบหน้าลงไปในน้ำผสมน้ำแข็งนั้นจะช่วยปรับระดับฮอร์โมนเลปติน ฮอร์โมนแห่งความอยากอาหารให้เข้าที่เข้าทางได้ ซึ่งจะส่งผลในการลดน้ำหนักต่อไปอย่างแน่นอน ความเย็นน้ำแข็งเองก็ยิ่งช่วยให้ร่างกายคุณต้องเผาผลาญพลังงานมากขึ้น จุดกระตุ้นเล็กๆนี้นำไปสู่การลดน้ำหนักที่เห็นผลอย่างแน่นอน อีกอย่าง การทำแบบนี้ช่วยให้คุณทนความหนาวได้ดีขึ้นอีกด้วย การทำแบบนี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ การฝึกระบบประสาทแบบนี้ จะทำให้คุณทนต่อความหนาวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

60 วินาทีพลิกชีวิต

ลาเต้ที่คุณดื่มอย่างเอร็ดอร่อยในทุกๆ เช้านั้นจะดีงามขึ้นไปอีกระดับด้วยการเปลี่ยนจากน้ำตาลทรายเป็นสารให้ความหวานจากหญ้าหวาน ซึ่งทุกวันนี้ค่อยข้างหาซื้อได้ง่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อสุขภาพ ลองเปลี่ยนสักนิด เพื่อชีวิตไร้พุง

เลือกเฉพาะน้ำมันที่ดีต่อร่างกายเท่านั้น

การกินปลาซาร์ดีนสัก 2 ครั้งต่ออาทิตย์ โอเมก้า 3S ที่อัดแน่นอยู่ในปลาซาร์ดีนจะช่วยทำนุบำรุงหัวใจของคุณเป็นอย่างดีเลยล่ะ

ช็อปปิ้งแบบเก๋ๆ กันดีกว่า

ลองค้นหาร้านค้าอาหารและวัตถุดิบที่ส่งตรงมาจากแหล่งผลิตรอบๆ บ้านดู บางครั้งอาจจะค้นพบอาหารที่สดใหม่ส่งตรงถึงมือคุณได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว แถมยังมั่นใจได้ว่าอาหารสดใหม่จริงๆ อีกด้วย

การหนีจากการนั่งติดเก้าอี้เป็นเวลานานได้ไม่ยาก

หากคุณเห็นอีเมลล์จากเพื่อนร่วมออฟฟิสที่คุณสามารถเดินไปตอบได้ด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ ลองขยับขาเดินไปตอบคำถามเพื่อนร่วมงานคุณด้วยตัวเองดู เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเพิ่มจำนวนก้าวในระหว่างวันได้แล้ว

ทัสแคนเคล




มาออกกำลังกาย 60-90 นาที เพื่อ Growth hormone ของเรากันเถอะ

KAJARP / 18-May-17

โกรทฮอร์โมนนั้นท่านผู้อ่านอาจจะรู้จักกันดีว่าส่งผลต่อการเจริญเติบโตในวัยเด็ก และยังช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างและสลายโปรตีน, ไขมัน และแป้งในวัยผู้ใหญ่ อีกหนึ่งตัวกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญไขมันก็คือการออกกำลังกายนั่นเอง ซึ่งหากออกกำลังกายต่อเนื่องนานอย่างพอเหมาะ จะยิ่งส่งผลดีต่อการเผาผลาญไขมัน ตามที่สำนักทะเบียนควบคุมน้ำหนักแห่งชาติสหรัฐอเมริกาได้มีการติดตามเก็บข้อมูลจากประชากรที่สามารถลดน้ำหนักได้อย่างน้อย 30 ปอนด์ และควบคุมน้ำหนักไว้ได้ต่อเนื่องกันเกิน 1 ปี เหล่า ”ผู้ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก” กลุ่มนี้มักจะออกกำลังกายต่อเนื่องอย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน ซึ่งมากพอที่จะกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ และแน่นอนว่าโกรทฮอร์โมนเป็นตัวช่วยสำคัญในการเผาผลาญไขมัน และนี่อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมกลุ่มคนที่ออกกำลังกายต่อเนื่องนานอย่างน้อย 60 นาทีนั้นประสบผลสำเร็จในการลดน้ำหนัก ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย นอร์ทแคโรไลน่า ที่กรีนโบโล่ พบว่าระดับของโกรทฮอร์โมนในร่างกายจะพุ่งสูงขึ้นในอัตราที่สอดคล้องกับระยะเวลาที่ใช้ในการออกกำลังกาย และจะหลั่งออกมาอย่างมากมายระหว่างการออกกำลังกายติดต่อกัน 30, 60 และ 120 นาที การศึกษานี้เข้ากันกับคำแนะนำจากรัฐบาลสหรัฐฯ และองค์กรอนามัยโลก ที่ว่าการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักนั้น ควรจะออกกำลังกายติดต่อกันเป็นเวลา 60-90 นาทีได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

Long exercise sessions increase Growth Hormone

Growth hormone is important for growth during childhood, but it also has major effects on protein, fat and carbohydrate metabolism in adults. Exercise is an effective fat burner if you do enough of it. For example, the National Weight Registry is database that tracks people who have lost a minimum of 30 pounds and kept the weight off for at least a year. The major of these “successful losers” exercise for at least 60 minutes a day. Growth hormone is a powerful fat mobilizer and may be an important reason why people lose weight during prolong exercise. Researchers from the University of North Carolina at Greensboro found that growth hormone levels increased during aerobic exercise in direct proportion to the duration of the workout. Growth hormone levels increased progressively with 30, 60 and 120 minutes of exercise. This study shows the wisdom of recent recommendations from the U.S. government and world Health Organization that people who want to lose weight should exercise at least 60-90 minute a day. (Journal Applied Physiology, 101: 1641-1647, 006)

60 และ 120 นาที การศึกษานี้เข้ากันกับคำแนะนำจากรัฐบาลสหรัฐฯ และองค์กรอนามัยโลก ที่ว่าการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักนั้น ควรจะออกกำลังกายติดต่อกันเป็นเวลา 60-90 นาทีได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

Long exercise sessions increase Growth Hormone

Growth hormone is important for growth during childhood

the National Weight Registry is database that tracks people who have lost a minimum of 30 pounds and kept the weight off for at least a year. The major of these "successful losers" exercise for at least 60 minutes a day. Growth hormone is a powerful fat mobilizer and may be an important reason why people lose weight during prolong exercise. Researchers from the University of North Carolina at Greensboro found that growth hormone levels increased during aerobic exercise in direct proportion to the duration of the workout. Growth hormone levels increased progressively with 30




วันนี้คุณทานอาหารสุขภาพเหล่านี้แล้วหรือยัง?

KAJARP / 3-Apr-17

ถ้าคุณเลือกรับประทานอาหารหลากหลายที่สดใหม่ ปลอดสารพิษและไม่ผ่านกรรมวิธีประกอบอาหารมากนัก คุณจะต้องประหลาดใจว่าคุณกลับรู้สึกมีพลัง และความรู้สึกสดชื่นมากกว่าตอนที่คุณเลือกทานอาหารขยะเหล่านั้น ดังนั้น เมื่อคุณเลือกรับประทานอาหารที่ดีคุณกำลังเติมสารอาหารสำคัญที่จำเป็นกลับคืนสูร่างกาย สิ่งเหล่านี้คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ร่างกายคุณรู้สึกดีขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงหนึ่งวัน แต่ตลอดไป

การทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย, ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั้น และทำจิตใจให้ปลอดโปร่งนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ร่างกายของคุณยังคงแข็งแรงพร้อมใช้งาน และน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอีกด้วย

1. ต้นกล้าอ่อนข้าวสาลี

ต้นกล้าอ่อนข้าวสาลีนั้นเป็นไอเท็มเด็ดที่คุณควรจะรวมอยู่ในมื้ออาหารของคุณทุกวัน ต้นกล้าอ่อนข้าวสาลีนั้นอุดมไปด้วยเหล็ก, แคลเซียม, แม็กนีเซียม, กรดอะมิโน, วิตามินเอ,วิตามินซี และวิตามินอี ที่สำคัญที่สุดคือคลอโรฟิลล์ที่มีอยู่ในต้นกล้าอ่อนข้าวสาลี ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมหาศาล

2. แซลม่อน

ผู้คนส่วนใหญ่มักจะรับรู้กันอยู่แล้วว่ากรดไขมันโอเมก้า3นั้นเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายมนุษย์เราไม่สามารถผลิตเองได้ อีกทั้งในแซลม่อนนั้นยังมีกรดไขมันโอเมก้า6 ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายมากอีกด้วย เท่านี้ก็เพียงพอที่เราต้องรับประทานปลาแซลม่อนอย่างสม่ำเสมอกันแล้ว

3. เมล็ดเชีย

เมล็ดเชียนั้น เป็นเมล็ดของต้นปอป่าน มีพื้นเพมาจากแถบเมดิเตอเรเนียนตะวันออก สามารถนำมาสกัดเย็นเป็นน้ำมัน, บดรับประทานพร้อมอาหาร หรือทานตัวเมล็ดเฉยๆเลยก็ได้ เมล็ดเชียนั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางจากประสิทธิภาพการลดระดับโคเลสเตอรอล ทว่าพลังอันแท้จริงของเมล็ดเชียยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เมล็ดเชียยังอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า3 ซึ่งดีต่อการควบคุมอาการของผู้ที่มีภาวะเบาหวาน, มะเร็ง, โรคหัวใจ และปัญหาการอักเสบต่างๆ จากการศึกษาหลายๆชิ้นยังชี้ให้เห็นว่ากรดไขมันโอเมก้า3ช่วยในปัญหาภาวะซึมเศร้า เพราะตัวโอเมก้า3 สามารถช่วยปรับการทำงานของระบบสมองให้ดีขึ้น นอกจากนั้น เมล็ดเชียยังเต็มไปด้วยสารอาหารต่างๆ อาทิเช่น วิตามินบี6, สังกะสี, ฟอสฟอรัส, โฟเลต,แม็กนีเซียม,ใยอาหาร และแมงกานีส

4. บลูเบอรี่

ผลการวิจัยของมาโยคลินิกแนะนำว่าบลูเบอรี่ เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลายที่ช่วยต่อต้านโรคเรื้อรังต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไฟโตนิวเทรียน, วิตามินซี และไฟเบอร์

5. ชินนาม่อน

ชินนาม่อนเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่ควรผสมลงไปในมื้ออาหารประจำวัน เนื่องจากชินนาม่อนนั้นเป็นเครื่องเทศที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากมาย นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ายิ่งกว่าทองคำเสียอีก การวิจัยชิ้นล่าสุดระบุว่าชินนาม่อนส่งผลดีต่อร่างกายดังต่อไปนี้

- ช่วยลดอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
- บำรุงระบบทางเดินอาหาร
- เสริมสร้างการทำงานของระบบสมอง
- ลดปริมาณไขมันเลว
- เพิ่มปริมาณการเผาผลาญกลูโคส

6. มันหวาน

มันหวานนั้นอัดแน่นไปด้วยเบต้าแคโรทีน, วิตามินบี6, วิตามินซี, ใยอาหาร, โพแทสเซียม

เบต้าแคโรทีนนั้น สามารถเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอ ซึ่งสามารถช่วยชะลอวัยและต้านการเกิดมะเร็งได้

สุดท้ายแล้ว หัวใจของการดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีจากภายในอย่างยั่งยืนนั้นก็คือการเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลาย, ไม่ผ่านกรรมวิธีมาก และเป็นอาหารออแกนิค หรือเพียงเลือกทานอาหารทั้ง10อย่างที่เราได้แนะนำเป็นประจำ เท่านี้ก็เพียงพอที่นำพาคุณสู่ความสุขภาพดีอย่างที่ตั้งใจ หรืออาจจะมากกว่าที่คุณวาดหวังไว้ก็เป็นได้คะ

Eating healthy foods regularly, engaging in regular exercise, and finding ways to decrease stress will keep your joints fluid and mobile, your blood pressure regulated, and your weight at a healthy level.

Top Superfoods

While eating healthy can be considered by many to be a ‘no-brainer,’ there are certain foods bursting with loads of nutrition that the average Western eater is going without. Going forward, make sure that doesn’t describe you!

Discover the following superfoods and make them part of your weekly eating plan:

1. Wheatgrass

Wheatgrass is a must have in your daily diet. This is a young grass of the common wheat plant, triticum aestivum. It is loaded with the following nutrients:

Iron
Calcium
Magnesium
Amino Acids
Vitamin A
Vitamin C
Vitamin E

But what adds to wheatgrass’s value is the high amount of chlorophyll it contains. Chlorophyll is a much-needed nutrient that the Westerner’s body often goes without.

2. Salmon

You probably already know all about omega-3 fatty acids. The bottom line is that they are essential to your diet, meaning your body cannot produce them so they must be obtained from foods you eat. The other vital point to remember is that most Westerner’s diets are unbalanced, with the essential omega-3 and omega-6 ratios in favor of being higher in omega-6’s. This is just one more reason wild salmon is one of the best foods around.

3. Flaxseeds

Flax is the seed of a flowering plant native to the “fertile crescent” of the eastern Mediterranean. It is often prepared as an oil (cold pressed), a meal (ground) or just plain seeds. Flaxseed oil has gained popularity recently for its ability to manage cholesterol levels, but that’s not all it can do.

Flaxseed benefits include having high levels of omega-3 fats that help manage diabetes, cancer, heart disease and inflammation. A diet that is high in omega-3’s has been found to fight depression and promote proper brain function. Additionally, it has the following nutrients:

Vitamin B6
Copper
Phosphorus
Folate
Magnesium
Dietary fiber
Manganese

4. Blueberries

According to experts at the Mayo Clinic, recent research suggests that blueberries are rich in nutrients that help to fight chronic diseases. The benefits of blueberries include being rich in the following:

Phytonutrients
Vitamin C
Fiber

5. Cinnamon

You should consider ways to get cinnamon into your daily diet for its life-enhancing properties. Cinnamon was once the most valuable spice and was often traded at a more valuable rate than gold in days gone by. Today cinnamon is valued for the health benefits it brings. Recent research shows that cinnamon is good for the following:

Suppressing and fighting urinary tract infections
Soothing for the stomach
Improving brain function
Lowering LDL (bad) cholesterol
Promote healthy glucose metabolism

6. Sweet potatoes

The nutrition facts of sweet potatoes include being loaded with the following:

Beta carotene
Vitamin B-6
Vitamin C
Fiber
Potassium

Beta carotene is converted to crucial vitamin A in the body. Vitamin A is said to help with slowing the aging process as well as fighting the risk of certain cancers, according to the Mayo Clinic.

The key to feeling and looking good today while protecting your health into tomorrow is eating a variety of fresh, raw, organic foods. Choosing on a regular basis from this list of 10 superfoods and making them part of your weekly diet will improve your health and vitality beyond your dreams.

a meal (ground) or just plain seeds. Flaxseed oil has gained popularity recently for its ability to manage cholesterol levels

heart disease and inflammation. A diet that is high in omega-3's has been found to fight depression and promote proper brain function. Additionally